วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

แผนนองเลือด

โดย จิตร พลจันทร์
ที่มา : คอลัมน์ คมความคิด จิตร พลจันทร์ นิตยสาร Voice of Taksin ฉบับที่ 15

มันสั่งว่า เมื่อประกาศยึดทรัพย์แล้ว มวลชนเตรียมออกมากันแล้ว ก็ให้ออกมากันให้เต็มที่ก่อน จากนั้นจะ ส่งทีมนรกเข้าไปประชิดตัวผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์ทีละคน แล้วยิงทิ้งเลย สร้างภาพเสมือนว่าฝ่ายนายกทักษิณและเสื้อแดงเป็นคนลงมือทำ และแล้ว... มันก็จะลงมือปราบปรามมวลชนฝ่ายประชาธิปไตยอย่างโหดเหี้ยมรุนแรงชนิดเลือด ท่วมท้องช้าง

โอ๊ย... เกิดมาเป็นคนไทยอย่างจิตร ใครมันจะนึกว่าวันอย่างนี้จะมาถึง
เกิด มาก็นึกว่าคนบางคนเค้าใจดีมีเมตตา เขารักประชาชนพลเมือง ที่ไหนได้ล่ะ วันนี้เขาเคาะเปรี้ยงลงมาแล้วว่าให้เตรียมเชือดคนเป็นแสนๆ ได้เลย เขาจะหานักฆ่ามืออาชีพจากเมืองนอกเมืองนามาช่วย เขาบอกซะด้วยว่าคนพวกนี้มันรักทักษิณ บางคนไม่ได้รักทักษิณมากมันก็รักประชาธิปไตยมาก เอามันไว้ไม่ได้ จะฆ่ากันเป็นล้านศพก็ไม่ว่า ขอให้ครอบครัว (กู) รอดก่อน
ฝ่ายอำมาตย์ มันก็ไม่ได้เลวไปซะทุกคนหรอกท่าน บางคนรู้ข่าวก็ใจเต้นโครมคราม เผ่นแน่บมาเล่าให้จิตรฟัง เพื่อให้จิตรส่งข่าวต่อไปยังพระเดชพระคุณตัวจริงคือมวลมหาประชาชน
คน หนึ่งเล่าไปน้ำตาไหลไปว่า มันเลวอะไรหยั่งงี้ เมื่อก่อนหลงเชื่อว่ามันรักประชาชน ยุให้พวกโจรห้าร้อยเข้ามาโค่นทำลายประชาธิปไตยก็เพราะทักษิณไม่ดี

แต่ ตอนหลังรู้ว่าทักษิณเขาดีและเขาไม่ผิด แทนที่จะหยุดยั้ง แกกลับสั่งฆ่าหนักกว่าเก่า ก็เลยรู้เช่นเห็นชาติว่า โคตรตระกูลนี้มันก็เหมียนกันทั้งนั้น ต้นตระกูลก็เป็นลูกน้องเขา เขาเอามาชุบเลี้ยงจนเป็นใหญ่เป็นโต (เหมือนทักษิณเลี้ยงเนวิน สุรเกียรติ์ วิษณุ บวรศักดิ์ อนุทิน และนายเหนือหัวของคนพวกนี้) พอได้ทีก็โค่นนายตัวเอง จับนายไปจองจำ ซัดว่าสติไม่ดี ดูแลบ้านเมืองไม่ได้ แล้วก็จับลงถุงแดง ฆ่าทิ้งอย่างทารุณ
โคตรตระกูลไหนที่มือเปื้อนเลือดขนาดนั้นจะให้มัน จบดีกระไรได้ แต่จิตรก็ไม่นึกว่าเรื่องมันตั้งสองร้อยกว่าปีแล้ว กรรมจะมาสนองกรรมเอาในตอนนี้
ความจริงการฆ่าหมู่หรือฆ่าเดี่ยวนั้น คนแก่โรคจิตบางคนมันคิดของมันมานานแล้วล่ะท่าน จิตรเคยรู้มาไม่กี่เรื่อง พอมาได้ยินจาก “คุณข้างใน” ผู้มีใจเป็นธรรมเข้า เลยต่อเรื่องได้ทะลุปรุโปร่งทีเดียว ขนาดลำดับ “แผนฆ่า” ได้เลยล่ะท่าน
- ใช้พวกมาเฟียชั้นต่ำ ระดับสัมภเวสี ฆ่าคุณทักษิณแทนให้ เรื่องก็ออกมาเป็นการระเบิดเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของการบินไทยที่คุณทักษิณฯ จะนั่งไปเชียงใหม่ในปีแรกที่เป็นนายกฯ
- ใช้คนไร้อนาคต หมดความหวังในชีวิตอย่างสนธิ ลิ้มทองกุล มาก่อหวอตทำลายชื่อเสียงคุณทักษิณให้สิ้นก่อนต่อไปก็ลงมือฆ่าง่าย ป้ายสีเขาว่าเป็นคนไม่ดี กะว่าเขาหมดชื่อเสียงแล้วตัวก็สบายตายไปคนก็ไม่สนใจ เหมือนที่ทำกับอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ครูบาศรีวิชัย ดร.บุญสนอง บุญโยทยาน พระพิมลธรรม เป็นต้น นั่นแล
- ใช้ทหาร ตำรวจ มือปืนรับจ้าง (ระดับมืออาชีพ) มาลงมือ ทหารก็ต้องหมวกแดงป่าหวายโน่น อย่างไอ้คนที่เตรียมยิงจากต้นไม้ที่ลพบุรี แต่นายกฯ เปลี่ยนแผนขึ้นเหนือนั่นแหละ
-ตำรวจ ก็ไปขุดเอาจากขุมนรก ก็พวกประวัติเลวๆ ที่วิ่งมากราบตีนขอให้ช่วยชีวิตอย่างสมคิด เป็นต้น
-มือปืนก็เลือกพวกที่ กอ.รม.นวย สั่งได้มาใช้งาน กลายเป็นการเตรียมฆ่าผู้นำของระบอบประชาธิปไตยถึง ๘ ครั้ง ๘ หน
-รวมทั้งแผนระเบิดรถ ยนต์ที่บางพลัดที่ไอ้พวกสื่อมวลสัตว์บางตัวอย่าง “เนชั่ว” มันเอามาโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นเรื่องตลกหรือ “คาร์บ๊อง” เพื่อให้คนทั่วโลกเขาไม่สนใจนั่นแหละ
-พวกนี้เลวถึงขนาดจะให้ยิงจรวดใส่บ้านที่ถนนจรัญสนิทวงศ์ของคุณ ทักษิณฯ และครอบครัว ก็ไม่ใช่ใครหรอก ไอ้ “เขายายเที่ยง” นั่นล่ะท่านที่เป็นตัวการคิดอะไรนรกๆ แบบนี้ เดชะบุญที่นายทหารใหญ่คนที่ต่อมาได้เป็นพลเอกและย้ายมาอยู่ฝั่งประชาธิปไตย เขาเซย์โน บอกว่าจะฆ่าใครก็เอาเฉพาะตัวเขา ฆ่าลูกฆ่าเมียเขาด้วยมันผิดหลักการ

- ใช้ทหาร ตำรวจ และพวกเศษมนุษย์ที่เลียตีนรับใช้กันอยู่เดินทางไปต่างประเทศ เก็บข้อมูลว่าคุณทักษิณอยู่ไหนอย่างไร เตรียมลอบสังหาร ที่อังกฤษก็ทำ ขนาดมาถึงกัมพูชาแล้วก็ยังทำ โชคดีว่าประเทศแถบนี้เขาไม่เล่นเกมโสโครกด้วย เวียดนามก็เป็นเจ้าภาพจับตัวเอาไว้ได้ ๓ คน ไม่นานนี้เอง ตอนนี้ได้ข่าวว่าหัวหายไปแล้ว
นี่ล่ะท่านคือผลงานนองเลือดของไอ้พวก เหี้ยม ม. หาย ความเป็นคนมันไม่มีเหลืออยู่กับตัวแล้ว ไม่ว่าจะไอ้แก่มากหรือไอ้แก่น้อย อยู่บ้านคงลงเดินสี่ตีน เพราะคุณธรรมมันไม่มีเหลือหลอ
แต่แผนการอุบาทว์ชาติชั่วที่เล่ามา ยังไม่เท่าความมืดดำของแผนใหม่ที่เพิ่งเคาะ กันลงมาจากตึกสูงๆ ของโรง...มีชื่อแห่งหนึ่งของเมืองไทย ซึ่งจิตรต้องเล่าให้ท่านฟัง จะได้รู้ว่าเมืองพุทธของเรา เดี๋ยวนี้มันได้กลายเป็น “ระบอบสัตวาธิปไตย” คือได้ฝูงสัตว์มาปกครองแทนคนอย่างไร
ในวันตัดสินคดีทรัพย์สินของนายก ทักษิณและครอบครัว หรือคดี ๗๖,๐๐๐ ล้านนั่นแหละ ฝ่ายชั่วมันเตรียมจะยึดทรัพย์ให้หมดเกลี้ยง เพราะมันกลัวนายกทักษิณจะเหลือทุนมาทำงานการเมือง แล้วคิดโค่นทำลายรังของพวกมัน มันก็เลยโหมโรงโฆษณาว่าเงินนั้นมาจากไหนยังไง หวังให้คนเขาเคลิบเคลิ้มเห็นดีด้วยกับการยึดทรัพย์
แต่มันก็รู้ว่า กระแสเสื้อแดงที่เร่าร้อนรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์นั้น ดับไม่ไหว มวลมหาประชาชนเหล่านี้เขาไม่ได้ห่วงเงินของคุณทักษิณ แต่เขาไม่ยอมนั่งเฉยให้ไอ้พวกโจรมหาโจรมันเข้าปล้นครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็ต้องออกมาแสดงพลังต่อต้าน
ตรงนี้ล่ะท่านที่รักทั้งหลาย ปิศาจตัวใหญ่ที่ใครก็มองไม่ออก เพราะเป็นประเภท “ตีนที่มองไม่เห็น” ก็ออกโรงมาอีกคราหนึ่ง เหมือนเมื่อคราวเหตุการณ์ฆ่านักศึกษาและประชาชนในวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ ไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่องคุลีเดียว

ปิศาจตนนี้มันสั่งว่า เมื่อประกาศยึดทรัพย์แล้ว มวลชนเตรียมออกมากันแล้ว ก็ให้ออกมากันให้เต็มที่ก่อน จากนั้นจะ ส่งทีมนรกเข้าไปประชิดตัวผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์ทีละคน แล้วยิงทิ้งเลย สร้างภาพเสมือนว่าฝ่ายนายกทักษิณและเสื้อแดงเป็นคนลงมือทำ โดยเฉพาะคำพูดของ “เสธ.แดง” ที่เตือนให้ระวังการสังหารผู้พิพากษามาก่อนนี้ มันก็จะเอามาอ้าง จากนั้นมันก็จะโหมข่าวไปทั่วประเทศและทั่วโลกว่าฝ่ายทักษิณเป็นคนสั่งฆ่าผู้ พิพากษา

และแล้ว... มันก็จะลงมือปราบปรามมวลชนฝ่ายประชาธิปไตยอย่างโหดเหี้ยมรุนแรงชนิดเลือด ท่วมท้องช้าง

ฝ่ายอำมาตย์บางคนมันไปติดต่อกับประเทศมหาอำนาจ ลูกพี่มันไว้แล้วด้วย ขอความช่วยเหลือในการปราบปรามประชาชน ไอ้ฝ่ายโน้นก็พูดไม่ออก ดันทำตัวเป็นลูกพี่เขามาตั้งแต่สงครามเย็นโน่น จะทำดัดจริตย้ายมาข้างประชาธิปไตยก็ไม่ทัน ก็เลยเตรียมช่วยเหลือเชิงกำลังพล (บางส่วน) อุปกรณ์เครื่องมือบางอย่าง และข่าวกรอง ละเอียดลงไปถึงขั้นว่าทหารที่มาฝึกซ้อมรบอยู่ในเมืองไทยช่วงนี้ถึงเวลาก็ยัง ไม่ให้กลับ ให้ซุ่มรอเวลาอยู่อีกอย่างน้อยสามเดือนเผื่อจะต้องรบจริง

เห็น ไหมล่ะท่าน... พวกมันเตรียมการกันถึงขนาดนี้ จิตรเป็นคนชอบพูดทีเล่นทีจริง งานนี้ยังต้องพูดด้วยเสียงดังฟังชัดว่าเมื่อพวกมันมองเห็นประชาชนเป็นผัก เป็นปลา คิดจะฆ่าจะแกงกันขนาดนี้แล้ว ประชาชนเราจะนั่งรอให้มันฆ่าก็กระไรอยู่
ก็ต้องพิจารณาว่าจะเอาไงกะมันนะพระคุณท่าน!

วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เปิดโปงขบวนการล้มเจ้า

ไม่เคยทีครั้งใด้ในโลกที่ประชาชน นักวิชาการทั่วไป จะทำการล้มเจ้าได้
ต่อให้คิดจะล้มจริง

ประวัติศาสตร์โลก ที่เกิดการล้มล้างราชวง ทุกครั้งตั้งแต่มีมนุษย์เกิดขึ้น
เกิดจากบุคคล ใกล้ชิด ขุนศึกขุนนาง ญาติ เท่านั้นที่ทำได้

ส่วนที่ยกตัวอย่างมาไม่ ว่า ใจ จักรภพ อีกเยอะ จุดประสงค์ต่างกัน
1.วิจารแรง
2.ปากดี
3.พูด จริง แต่ไม่ควร
สรุป ยังไงก็ล้มไม่ได้ กลับอ่านอีกรอบ ให้พวกมันตีทำ ตะโกน ในทางไม่ดีจนคอแตก พวกมันก็ล้มไม่ได้

"ประวัติศาสตร์โลก ที่เกิดการล้มล้างราชวง ทุกครั้งตั้งแต่มีมนุษย์เกิดขึ้น
เกิดจากบุคคล ใกล้ชิด ขุนศึกขุนนาง ญาติ เท่านั้นที่ทำได้"

ถ้าการวิจาร =หมิ่น = ล้มเจ้า
ในโลกคนEng us japan คงมีคนโดนจับไปแล้ว 50 ล้านคนมั้ง

ดัง นั้นเป็นประชาชนคนไทยที่เคารพ ราชวง ต้อง ต้องจับตาดูคนที่มีโอกาสกระทำมากกว่า
อย่าลืมการ ปฎิวัติ รศ 120 2475 2325 ก็เกิดเพราะ ขุนนางทั้งนั้น
หรือเรากำลังโดนหลอกโดยกลุ่มที่ต้อง การกระทำจริง
มีผลได้เสียกัน ราชสมบัติ อำนาจ (ในการทำลายล้างบุคคลอื่น )

มองกลับ กันถ้าตัวใหญ่เสื้อแดงทำจริง ใครเขาก็ไม่เอาด้วยทำไปตายหมด อยู่ดี
มอง ให้ออกอะไรคือการกล่าวหา ความเป็นไปได้ มูลเหตุไปตามคนกลุ่มนี้กว่าจะรู้ตัว ก็กลาย
เป็นกลุ่มคนที่ก่อการซะเอง

อีกกลุ่มโดนต่อว่า กลับเป็น ผู้ปกป้องที่แท้จริง

เสื้อแดงบางกลุ่มตามที่เขากล่าวหา ความต้องการคือ มีการแอบอ้างราชอำนาจมาใช้เขาก็โฏรธ ด่าไปเรื่อย
ความ ต้องการที่ผมคิดคือ เขาต้องการเชิดชู โดยไม่ใครแอบอ้างมากกว่า

กระทู้ แนวนี้เป็น หมื่นตามที่ รบ ปิดมีจริงแต่ผมบอกได้เลย ทั้งหมด เป็นกระทู้gossip
แบบ gossip ดาราทั้งหมด ไม่มี เวปกระทู้ไหนที่มีการเตรียมอาวุธ หรือแผนการล้มเจ้า บ้าบออะไร
การgossip เอาเรื่องลับมาพูด = ล้มเจ้า ความคิดแบบนี้มันบ้าสุดโด่ง

ถ้าผม นินทาเจ้านาย ว่าเจ้านายไปทำไรมาบ้าง = จะยึดบริษัทเจ้านายเป็นอะไรที่บ้ามาก กับคนที่คิดว่านี่คือการ>>>>>>ล้มเจ้า

วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553



วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 06, 2010

องคมนตรี กับสตรีชั่ว

โดย จิตร พลจันทร์

ที่มา คอลัมน์ คมความคิด จิตร พลจันทร์ นิตยสาร Voice of Taksin ฉบับที่ 14

ปักษ์แรก กุมภาพันธ์ 2553

โอ๊ย สะใจๆๆๆๆ สู้มาสามปีฝ่า จิตรเพิ่งจะสะใจเต็มที่อีคราวนี้เอง

เริ่ม จากคนชื่อนายทองเปรมที่เมื่อก่อนศักดิ์สิทธิ์นักหนา หมาไม่ให้ไต่ไพร่ไม่ให้ตอม เดี๋ยวนี้เหมือนกองปฏิมูลส่งกลิ่นเหม็นโฉ่แถวสี่เสาเทเวศร์ เพราะหน้าด้านไม่ยอมออกจากบ้านหลวง เรื่องบัดสีบัดเถลิงทางการเมืองถูกถลกออกมาอย่างจะๆ

ธุรกิจท่อน้ำ เลี้ยงนายทองเปรม ไม่ว่าไอ้บริษัทใจดำที่หากินด้วยการเลี้ยงไก่ เลี้ยงหมูจ้องเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรทั่วประเทศอยู่ทุกลมหายใจ ชั่วๆ ไอ้เสี่ยน้ำเมากับอีเมียที่เกิดมาทำเป็นอย่างเดียว คือเอาลิ้นเลียพื้นแถวๆ วังซะจนสะอาดหมดจดไม่เหลือหลอ หรือไอ้ ธนาคารอัปรีย์ที่โกงทุกสิ่งทุกอย่างแล้ววิ่งเอาค่าต๋งไปยื่นสองแขน ส่งให้มหาอำมาตย์และโคตรตระกูล ถูกเปิดโปงจนแทบไม่เหลือกางเกงในสีชมพูเอาไว้แลบเล่นกับหนุ่มๆ แถวโรง แรมอิมๆ ปาร์คๆ อะไรนี่แหละ

ตอนนี้มาถึงนายสุ รยุทธ์กับเขายายเที่ยง ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าไม่เที่ยง (ธรรม) กันทั้งยายทั้งตา เมื่อก่อนภาพลักษณ์เหลืองอร่ามประหนึ่งทองคำก็ไม่ปาน พอคนเสื้อแดงยกขบวนไปส่องกล้องดูใกล้ๆ ถึงกับผงะ เพราะมันคือเหลืองอุจจาระก้อนเบ้อเริ่มเทิ่ม

แถมไอ้ขบวนการอำมาตย์ ชั่ว ยังด้านหน้ากันออกมาปกป้องราวกับว่าขี้ก้อนนั้นมันจะเสริมสถาบันได้หยั่ง งั้นแหละ จากนั้นจนบัดนี้ คำว่าองคมนตรีก็สิ้นสุดความศักดิ์สิทธิ์ ใครดีก็ดีไป ใครชั่วก็ชั่วหักคาอยู่ในนั้น ผ้าเหลืองจีวรพระยังดีกว่าเพราะเอามาหุ้มต้นไม้ต้นไร่แล้วคนไม่กล้าตัด มีแต่จะยกมือไหว้นอบน้อม

แต่เหลืองในตำแหน่งองคมนตรีนั้นบ่ใช่แล้ว เด้อ!

จิตรสุขใจหาอะไรเปรียบปานมิได้ เพราะเมื่อองคมนตรีถูกกระชากกางเกงในจนเห็นเป็นดุ้นเป็นด้าม (หรือบางรายก็ไม่เห็น เพราะม้าเตะขาดไปตั้งแต่ละอ่อน) ก็แปลว่าความลับดำชั่วหลายสิบปีของบ้านนี้เมืองนี้มันคงจะได้ฤกษ์ได้ชัยเปิด โปงกันเสียทีหนึ่ง ขอเชียร์ๆๆๆๆ ให้คนเสื้อแดงมุ่งมั่นต่อไปเถิดจะเกิดผล จิตรคนนอกขอเติมข้อมูลตรงนี้จั๊กน่อย เผื่อจะเป็นเชื้อพลงเชื้อเพลิงให้เขาเดินต่อไปได้มั่ง

แหม.... ทั่วโลกเขาออกจะฮือฮาเรื่องสิทธิสตรี ทำไมคนเสื้อแดงเข้าข้างแต่ฝ่ายชาย เอาแต่ฝ่ายชายมาเปิดโปงเท่านั้นล่ะจ๊ะ ไอ้เรื่องถ่างขาหาอำมาตย์ หญิง บางคนเขาก็ชำนิชำนาญอยู่มิใจ้น้อย ขออนุญาตท่านผู้อ่านที่รักเล่าสักสองสามคน แต่คนเสื้อแดงว่าไปตามสะดวกเถิด ไม่ต้องเล่นตามลำดับของจิตรที่จะจาระไนต่อไปนี้ก็ได้

หญิงคน แรกเป็นสาวใหญ่ใจถึง สวยสมแต่นมยาน (อ้าวขอโทษ กลอนมันพาไป) เธอผู้นี้สูงศักดิ์ขนาดยอดตาลเห็นจะได้ แถมมีศักดิ์เป็นพี่สาวร่วม สายโลหิตสีแดงเลือดอำมาตย์กับองคมนตรีอีกคนหนึ่งที่ว่ากันว่า เต้นรำเก่งนักหนา เธอผู้นี้มีชื่อเฉพาะตัวเหมือนสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนทั้งหลายแหล่ แต่จิตรเป็นคนขี้เกรงใจ ขอเรียกว่า ท่านผู้ใหญ่พันธุ์ไม่ดีก็ แล้วกัน ค่อยเฉียดๆ ชื่อจริงแกหน่อย ไม่เอ่ยเลยเดี๋ยวจะหาว่าจิตรเขียนเชียร์ทั้งทีก็ไม่จั๋งหนับ

ท่าน ผู้ใหญ่คนนี้เป็นโฆษกชั้นเอกของขบวนการล้างบางนายกทักษิณและ ขบวนการประชาธิปไตยของพวกเราทั้งหลาย เพราะเธอผู้นี้เป็นตัวการใหญ่ที่คอยเชียร์พันธมิตรพันธมารให้เข้าสองรูหูของสตรี สูงเยี่ยมเทียมเมฆอีกคนหนึ่งแห่งสยามประเทศ ทั้งกีดทั้งกันไม่ให้นายกทักษิณและครอบครัวทำอะไรที่เป็นความดีได้เลย ขนาดเอาขนมนมเนยฝากเข้าไปมอบให้นายของเธอ ยังใจร้ายสั่งบริวารทั้งหลายให้ทิ้งไว้ตรงนั้นจนเน่าเหม็น ไม่ยอมบอกให้นายตัวเองรู้ด้วยซ้ำไป คงกลัวว่ารู้แล้วจะเกิดใจอ่อนเห็นความดีขึ้นมา ขบวนการทำลายนายกทักษิณก็จะเน่าแทนขนม เพราะบางคนตอนนี้ก็แก่จนลมใส่ ไม่ทำอะไรก็จะเน่าเองอยู่แล้ว

ท่านผู้ใหญ่พันธุ์ไม่ดีจงเกลียดจงชังนายกทักษิณเพราะนายกทักษิณไปสั่งย้ายน้องชายสุดเลิฟ ของเธอออกจากตำแหน่งสมัยนั้น โกรธหยั่งกะใครเขาเอาไม้มาแยงรู (หู) ไม่ได้ดูเล้ยว่าน้องชายของตัวมันนั่งในตำแหน่งหยั่งกับไอ้ว่อกปัญญาอ่อน แก้ปัญหาอะไรไม่สำเร็จ แถมเอาหน่วยงานประสานในการแก้ไขปัญหาก่อความ ไม่สงบไปเป็นศูนย์ประสานงานให้กับคนขายอาวุธเถื่อน น้ำมันเถื่อน และอีกหลายอย่างที่เถื่อนๆ ซะอีก

นายกทักษิณท่านเป็นนัก แก้ปัญหา เห็นนั่งรับตำแหน่งในมหาดไทยหยั่งกะสืบตระกูล (เพราะโคตร พ่อเขาเป็นปลัดกระทรวงที่นั่นมาก่อน) ก็ต้องขจัดกวาดล้าง ท่านก็ยุบ หน่วยซะ เอาตัวกลับมาทำงานในส่วนกลาง เท่านั้นแหละ ทั้ง พี่สาว น้องชาย และน้องชายอีกคนที่เขาส่งไปใหญ่โตแทนตัวเขาในตอนนี้ โกรธจนบั้นท้ายสั่นไหว ขนาดนั่งไม่ติดที่ คงเผลอนึกว่านามสกุลของตัวแปลว่า แผ่นดินทองมันจะเหลืองอร่ามห้ามแตะต้อง ความจริงมันก็เหลืองอุจจาระเดียวกับสุรยุทธ์นั่นล่ะ (วะ)

เธอ รายที่สอง แหม.... คนนี้ก็ใย๊ใหญ่ทั้ง ขนาดและ บทบาทแต่เรื่อง ขนาดใหญ่ขนาดไหนให้ไปถาม บัญญัติ บรรทัดฐาน อดีต หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เอาเอง จิตรบ่ฮู้บ่หัน ไม่ชำนาญเล่นจ้ำจี้เหมือนเขา

แต่ บทบาทนั้น โอ้โฮ.... กำแพงเมืองจีนยังเล็กไปถนัดตาถนัดใจ คนๆ นี้เป็นนักระดมเงินชั้นหนึ่ง เจ้านายคนไหนได้ไปก็ต้องยอมเธอ เธอเข้าไปเกี่ยวข้องในหลายธุรกิจ จิตรได้เอกสารมาปึกหนึ่ง อ่านมันส์ไปเลย แต่ขออนุญาตอุบไว้ก่อนที่ไก่จะตื่นนะพระคุณท่าน ในนั้นบอกหมดว่าเอา เงินไปฝากไว้นอกประเทศยังไงๆ บางรายเขาก็เป็นเพื่อนกับเพื่อนของจิตร จิตรก็พอจะรู้กะเขามั่ง เจ้าตัวคงนึกว่าลับเสียเต็มประดา ตอนนี้ลับซะจนแลบแล้วล่ะเธอจ๋า

ยาย คนนี้เรียกเขาว่า ท่านผู้ใหญ่ จ.ก็แล้วกันเต๊อะ ยิ่งตอนหลังยิ่งวิ่งควั่กหาเงิน ไม่ใช่หาส่งให้นายทั้งหมดนะ เอาเข้าพกเข้าห่อก็เยอะ บางทีหนักกว่านั้น ไปซื้อเพชรถูกๆ แล้วเอามาขายต่อเจ้านายในราคาแพง เจ้านายก็งมโข่งนึกว่าเขาซื่อ สัตย์จริงใจอะไรด้วย ความจริงเขารักเงินรักผลประโยชน์ ไม่นานก็จะเห็นเขาถีบตัวทิ้ง ถ้าเจ้านายเกิดเพลี่ยงพล้ำเสียทีขึ้นมา เจ้า นายเธอผู้นี้ว่าไปก็น่าสงสาร มีคนรุมเกลียดรุมชังอยู่เยอะ ไอ้ความ ไม่ดีของตัวก็มากเอาการอยู่ แต่บอบช้ำหนักๆ ตอนหลังน่ะไม่ใช่ของตัวเอง ทำ ตามคำสั่งของผัวเขา อีตาผัวก็เป็นคนมีนิสัยเห็นแก่ตัว อะไรดีเอาเข้าตัว อะไรชั่วมอบให้เมีย หมด ตามแบบฉบับคนปฏิบัติ ทำที่ไม่ใช่ ธรรม

ความสนุกของ ท่านผู้ใหญ่ จ.คือการระดม เงินมาต่อต้านนายกทักษิณที่ตัวเองอุตส่าห์ชวนเชื่อซะหรูว่าเป็นถึง ระบอบทักษิณเพราะอุปนิสัยรักเงิน เลยรับอาสาหาเงินมาช่วยตรงนั้นตรงนี้ที่เขาอยู่ในสนามรบแทนตัว ช่วยขบวนการของไอ้หัวหมูแก้บนถนนพระอาทิตย์ หรือช่วยเครือหนังสือ พิมพ์ เนชั่วให้ได้เวลาทีวี วิทยุอะไรต่างๆ มากมายก่ายกอง เรียกว่าเป็น นางฟ้ามหาโจรตัวจริง

เนื้อที่ใกล้จะหมดแล้ว..... จิตรขอทิ้งไว้เป็นคนสุดท้าย เธอที่สามนี้เป็น คุณใหญ่คงจะยังไม่ได้เป็น ท่านผู้ใหญ่กับเขาเพราะอาวุโสยังค่อนข้างน่อย คนนี้อยู่ ใกล้ตัวใกล้อวัยวะทั้ง ๓๒ ส่วนของสตรีคนสำมะคัญขนาดอาบน้ำอาบท่าให้ ความจริงเธอผู้นี้นิสัยดีนิ่งๆ เฉยๆ ไม่คอยขบกัดอะไรตลอดเวลาเหมือนคุณเธอสองคนแรก แต่พอดีเธอเกิดเคราะห์ร้าย ไปกระทำการ แลกน้ำกับนักการเมืองผิวดำคล้ำคมขึ้นมา และเป็นน้ำชนิดที่ไม่เอามาสาบานว่าจะจงรักภักดีอะไรนั่นด้วย

สามี เก่าเธอเป็นนายทหาร แต่จากกันไปนานแล้ว เธอซึ่งไม่แก่เฒ่านักก็คงจะ เหงามั่ง วันหนึ่งเกิดปะหน้ากับ กำนันสุราษฎร์ขึ้นมา กำนันท่านก็ไม่มีเหนียมอายอยู่แล้ว ยิ่งลูกเขาเมียใครแกถนัดนัก ไม่มีต้นงิ้วให้ปีนแกยังแอบปีนต้นมะพร้าวแทน กำนันแกก็เลย ทำไร้กับคุณเธอผู้นี้จนเกิดติดอกติดใจกันขึ้นมา พอ ติดกำนันแกก็ใช้ ช่องทางนี้ประสานงานให้ตัวแกมั่งหรือให้กะพรรคการเมืองเก่าแก่เห มือนจั๊กกะแร้นายชวนมาตลอด จนกลายเป็น ทาสน้ำของเขาไปโดยไม่รู้ตัวและหัว....ใจ

ก็มาเล่ากันไว้หนุกๆ ตรงนี้ล่ะครับ จิตรไม่มีอะไรจะให้ยกเว้นหัวจอยดวงน้อยๆ เพื่อประชาธิปไตยทั้งดวง ก็ย่อมจะไม่อยากเห็นเหลือบที่คอยกลุ้มรุมทำลายสิทธิเสรีภาพของประชาชนคนราก หญ้า ไม่ว่าจะตัวผู้หรือตัวเมีย

เล่นรังแกประชาชนก็ต้อง โดนทั้งฝูงล่ะเจ๊า!

Posted by นักข่าวชาวรากหญ้า at 2/06/2010 09:05:00 ก่อนเที่ยง

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

กองทัพประชาชน

คือประเทศต่างๆ เขามีหมดครับแต่เขาไม่เรียกชื่อเต็มเพราะภารกิจมันลุล่วงไปแล้วเลย เรียก กองทัพเฉย ในประเทศตะวันตกเกือบทุกประเทศเคยมีกองทัพประชาชนกันมาแล้วทุกประเทศ เมื่อทหารกล้าของเขาไม่ได้เป็นทหารของประชาชน ดันเป็นทหารของกลุ่มคนคนเดียวพร้อมที่จะกดขี่กลุ่มคนอิ่นโดยเฉพาะที่ด้วย กว่า(เท่ซะไม่มี) บางคนเข้ากับกลุ่มที่ด้วยกว่าเพื่อช่วยเหลือด้านกำลังการต่อรอง เพื่อเป็นการคานอำนาจกำลังกัน ซึ่งมันไม่ต่างกับ 3อำนาจสูงสุดในไทยที่ตั้งมาเพื่อคานอำนาจกัน แต่เมื่ออำนาจใดอำนาจหนึ่งเอาหลังพิง อำนาจอื่นที่ไม่ได้อยู่ในระบบก็เกิดการเอาเปรียบกันเช่น พิงกองทัพ พิงวัง ทำให้อำนาจที่เหลืออยู่ไม่สามารถอยู่และใช้กฎหมายร่วมกันอย่างเป็นธรรมได้ ซึ่งแน่นอนผิดกฎหมาย ที่เหลืออยู่ต้องหาอำนาจที่เท่าเทียมมาช่วยในการคานอำนาจ(เขามีดีอะไรกันถึง หลอมประชาชนได้) ก็ดูชอบธรรมดี ในตอนนี้คือประชาชน ไม่ต้องกลัว เรื่องการเมืองล้วนสุดท้ายมันแค่ coldwar ภาคการเมือง
ถ้าไม่มีผมมองวาแย่เมื่ออีกฝั่ง ยึดกฎหมายใช้เองไม่มีใครช่วยคานเป็นเรื่องที่แย่มาก การมีแสดงถึงความเป็นเสรีภาพในการเมืองชนิดหนึ่งในการปกครองรูปแบบใหม่ที่ ปกครองลักษณะเสรีประชาธิปไตย แต่มีอะไรที่แปลก การมีกองทัพในมือก็แค่เป็นการเจรจาต่อรอง

ผู้คุมกองทัพเข้าร่วมกับกลุ่มคนที่มีอำนาจ เพื่อแลกผลประโยชน์การเข้าร่วม ในลักษณะรากลึกจนเป็นธรรมเนียมทั้งที่ผิดกฎหมายเช่น การได้รับผลในการจัดซื้ออาวุธ ปีหนึ่งนับแสนล้านทั้งที่ผิดกฎหมายแต่นายทหารกลับทำกันมาเป็นธรรมเนียมมานาน การนำรุ่นต่างๆขึ้นมานั่งตำแหน่ง ผบ. ซึ่งในความเป็นจริงต้องอาศัย ความสามารถในการออกศึกรบ แต่ที่ไทยกลับเป็นระบบ sotus (ทำให้เกิดการขึ้นมานั่งตำแหน่งแบบผิด)


การไม่ทำให้เกิดยิ่ง ง่ายกว่ามาก
1.ให้ผู้มีอำนาจไม่ว่าใครห้ามยุ่งการเมือง ถ้ายุ่งต้องมีอำนาจที่เท่ากันคานอำนาจได้ สภาlordVS สภาที่มาจากการเลือกตั้ง
2.อย่าเอากองทัพ มาเป็นของตัวให้คนเห็น ต้องยืนด้วยตัวเองในรูปแบบความถูกต้อง (หรือไม่มีอะไรดีจึงต้องพึ่งกองทัพ)
ผมมองคนมีอำนาจตอนนี้ เป็นพวกไม่มีเพื่อนไม่มีความถูกต้อง พวกตัวเองทำผิดแทนที่จะออกมาให้เกิดการเป็นธรรม แต่ดันไปหาซื้อปืนมาข่ม ขู่อีกฝั่ง ห้ามคนอื่นพกพาอาวุธ ไม่ใช่เพราะกลัวการต่อสู้ แต่กลัวเมื่อเขามีปืน ตัวเองเลยไม่รู้จะขู่เขายังไง ถ้าคุณมีก็ต้องเปิดโอกาสให้คนอื่นเขามี เขาจะได้เดินมาคุยกับคุณได้อย่าง เป็นธรรม ไม่ใช่เขาต้องมาคุยกันคุณเพราะเอาปืนไปขู่เขามา แล้วมันจะเป็นธรรมหรือ ถ้าเขาไม่มีคุณก็ต้องวางปืนโดยการปลดอาวุธออก หรือทำลายทิ้งมันไป หรือคนกลางเป็นคนถืออาวุธ(กรรมการ: ซึ่งการออกแบบการปกครองให้กองทัพทำเช่นนั้นอยู่แล้ว)


ซึ่งทั้งหมดมันมีอยู่ใน รธน ทุกฉบับ แต่ไม่ปฎิบัติตามความวุ่นวายมันจึงเกิด ผู้ที่ออกแบบระบบเขามองออก เป็นตราขึ้นมา แต่ที่ไทยไม่เคยและทูล รธน ใหญ่ยิ่งใหญ่เอง จึงเกิดความวุ่นวาย
ไทยเราเองไม่เคยให้ความรู้คนไทยเรื่องการเมืองการปกครอง ให้เข้าใจอย่างท่องแท้
แต่พยายามยัดเยียดคนไทยให้เบื่อการเมือง ทั้งที่
"การ เมืองเป็นเรื่องของประชาชน"
"การเมืองเป็นเรื่องของประชาชน"
"การ เมืองเป็นเรื่องของประชาชน"
"การเมืองเป็นเรื่องของประชาชน"

คนมี อำนาจเคยอ่านข้อความนี้ใหม
เมื่อคนเราแตกฉานเรื่องการเมือง เรื่องการทำมาหากิน ขี้ๆไปเลย การสนใจเรื่องการเมืองมันช่วยพัฒนา EQ ของคนในประเทศมากๆ แต่พยายามสร้างการเมืองให้เป็นสิ่งที่คนไทยเบื่อ แต่นั้นมันคือเงินของประชาชนและการดำรงค์ชีวิตทั้งนั้น

หรือเขาต้อง การให้คนไทยเบื่อจริงๆ แล้วเอาตัวเองเขาไปนั่งเอง

ดังนั้นขอให้คนที่ สนใจการเมืองมองคนเบื่อการเมืองคือคนไม่สนใจความเป็นอยู่ของตัวเอง มองด้วยสายตา น่ารังเกียจ เมื่อคนไทยไม่สนใจว่าตัวเองจะอยู่อย่างไรมันแค่คนป่าดี ๆนี่เอง ขนาดชาวนาวี ยังเล่นการเมืองเป็นเลย